รายข่าวจากกรมทางหลวง(ทล.)แจ้งว่า ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 66จำนวน 865 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างจุดจอดพักรถบรรทุก (Truck Rest Area)ขนาดใหญ่ จำนวน 3 แห่ง รองรับจอดรถได้รวม 456-476 คัน ประกอบด้วย
1.เพิ่มประสิทธิภาพจุดจอดพักรถบรรทุก และสถานีตรวจสอบน้ำหนักอุดรธานี (ขาเข้าและขาออก) พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ ทางหลวงหมายเลข 2(ถนนมิตรภาพ)ตอนโนนสะอาด-อุดรธานี จ.อุดรธานี ช่วง กม.433+704-434+704 พื้นที่ 110 ไร่ งบประมาณ 320 ล้านบาท รองรับรถจอดได้ 100 คัน แบ่งเป็น รถบรรทุก 80 คัน รถเล็ก 20 คัน
2.ก่อสร้างจุดจอดพักรถบรรทุก พร้อมสถานีตรวจสอบน้ำหนักหนองสองห้อง ทางหลวงหมายเลข 2 ตอนน้ำสวย-สะพานมิตรภาพที่หนองคาย (เขตแดนไทย/ลาว) จ.หนองคาย ช่วง กม.495+000 พื้นที่ 88 ไร่ งบประมาณ 320 ล้านบาท รองรับรถจอดได้ 276 คัน แบ่งเป็น รถบรรทุก 200 คัน รถเล็ก 76 คัน
และ 3.ก่อสร้างจุดจอดพักรถบรรทุก พร้อมสถานีตรวจสอบน้ำหนักสงขลา ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนพรุพ้อ-เนินพิชัย จ.สงขลา ช่วง กม.1223+959-1224+179 พื้นที่ 18 ไร่ งบประมาณ 180 ล้านบาท รองรับรถจอดได้ 80-100 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 50-60 คัน รถเล็ก 30-40 คันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เมื่อได้จัดสรรงบประมาณแล้วสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะเตรียมจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) และเปิดประกวดราคา คาดว่าได้ตัวผู้รับจ้างและลงนามสัญญาก่อสร้างครบทั้งหมดภายในปีงบประมาณ66จากนั้นเริ่มก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 68 โดยใช้เวลาสร้าง 2 ปี
สำหรับทล.มีแผนจะดำเนินก่อสร้างจุดพักรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งหมด 45 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 17 แห่ง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 17 แห่ง ซึ่งได้รับงบประมาณก่อสร้างในปี 66 จำนวน 3 แห่ง และเหลืออีก 8 แห่ง อยู่ระหว่างของบประมาณปี 67 เพื่อก่อสร้างให้ครบตามแผนทั้ง 45 แห่งต่อไป
ส่วนสถิติผู้ใช้บริการจุดจอดพักรถบรรทุกสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64-31 ส.ค.65 รวมทั้งสิ้น 345,472คัน หากจำแนกผู้ใช้บริการจุดจอดพักรถบรรทุกเฉพาะเดือน ส.ค.65 พบว่ามีจำนวนรวม 35,758คัน สำหรับ 5 อันดับ ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ 1.โนนสูง(ขาออก)จำนวน6,258คัน2.สีคิ้ว(ขาเข้า)5,945คัน 3.วังน้ำเขียว 3,918คัน 4.บรรพตพิสัย 3,003คัน และ 5.บุรีรัมย์ 2,751คันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ตามการก่อสร้างจุดจอดพักรถบรรทุกทั่วประเทศ เพื่อจัดให้มีที่พักริมทาง สำหรับผู้ขับขี่รถบรรทุกได้จอดพักระหว่างการเดินทางตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุ ที่เกิดจากการเมื่อยล้าและการชนท้ายรถจอดบนไหล่ทาง รวมทั้งช่วยยกระดับการขนส่งสินค้าตามโครงข่ายของทางหลวงให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น