รายงานข่าวจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า ได้เตรียมความพร้อมช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ด้วยการตรวจเข้มควันดำรถโดยสารที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 257 คัน ต้องเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด คือถ้าการตรวจวัดค่าควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 และถ้าตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40
รวมทั้งตรวจสภาพรถให้มีอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนด เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกวันก่อนนำรถออกมาให้บริการ หากพบว่ารถโดยสารมีค่าควันดำเกินมาตรฐาน หรือสภาพรถบกพร่องต้องนำไปแก้ไขปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนนำมาให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งมาตรการนี้ จะดำเนินการเป็นพิเศษมากกว่าช่วงเวลาปกติที่ได้ดำเนินการเป็นประจำต่อเนื่องอยู่แล้ว
ส่วนอนาคตเพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวนั้น บขส. เร่งดำเนินการโครงการจัดหารถโดยสารไฟฟ้า (อีวี) ขนาดเล็ก (มินิบัส) จำนวน 54 คัน วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท อยู่ระหว่างแก้ไขข้อมูลเรื่องค่าพลังงานไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณในการดำเนินการ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. ได้ให้นโยบายไว้ เมื่อเดือน ก.ย. 65 เมื่อแก้ไขข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอบอร์ด บขส. ให้ความเห็นชอบโครงการช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. นี้ หากเห็นชอบแล้วจะจัดทำเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อกำหนดราคากลาง รวมทั้งรายละเอียดข้อกำหนดโครงการ ก่อนเปิดประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หาเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 6-8 เดือนแล้วเสร็จ กำหนดส่งมอบรถอย่างเร็วในปี 66
เบื้องต้น รถมินิบัสไฟฟ้าจะมีขนาด 21-30 ที่นั่ง ใช้รูปแบบการจ้างเหมาเดินรถสัญญา 5 ปี นำมาให้บริการในเส้นทางไม่เกินระยะทาง 300 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 5 เส้นทาง จำนวน 54 คัน ได้แก่ ได้แก่ หมอชิต-สระบุรี 10 คัน, รังสิต-มหาวิทยาลัยบูรพา 8 คัน, รังสิต-แหลมฉบัง 12 คัน, รังสิต-นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน 12 คัน, และเส้นทาง รังสิต-มาบตาพุด-ระยอง 12 คัน ซึ่งเส้นทางดังกล่าวนี้ไปจะช่วยอำนวยความสะดวกเชื่อมต่อการเดินทางในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development : EEC) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บขส. อยู่ระหว่างศึกษาการนำรถโดยสารไฟฟ้า และรถโดยสาร ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง มาให้บริการในเส้นทางระยะทางไม่เกิน 600 กม. ทั่วประเทศ กำลังพิจารณาจำนวนรถโดยสารที่จะจัดหาประมาณ 200 คัน รูปแบบการเช่าที่มีความคุ้มค่า เบื้องต้น 3-5 ปี รวมทั้งวงเงินลงทุน และเส้นทางที่จะมาให้บริการ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว คาดเสนอบอร์ด บขส. พิจารณาแนวทางดำเนินการได้ช่วงเดือน ธ.ค. 65 หรือ ม.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 66 หากได้รับการอนุมัติจะเข้าสู่การทำทีโออาร์ และ เปิดประมูลต่อไป คาดว่าจะใช้เวลา 8-9 เดือน ก่อนจะตั้งเป้าได้รับรถในปี 67 เพื่อนำมาให้บริการผู้โดยสารได้
ปัจจุบัน บขส. มีรถโดยสารให้บริการจำนวน257คัน แบ่งเป็นรถของ บขส.151คัน และ รถเช่า106คัน ปัจจุบันรถเช่าจะใช้รูปแบบเช่าปีต่อปี ดังนั้นเมื่อได้รถโดยสารใหม่ จะช่วยยกระดับการเดินทางให้ปลอดภัยและสะดวก ลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม